๒๖.ปางประทับเรือ
พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถ นั่งประทับบนพระแท่น ห้อยพระบาททั้งสองข้างวางอยู่บนดอกบัว พระหัตถ์ทั้งสองคว่ำ วางที่พระชานุทั้งสอง
พระพุทธรูปปางนี้ มีตำนานดังนี้ อนึ่งเล่า เมื่อตายแล้ว ก็ไม่มีใครนำพาในซากศพ ทิ้งให้เน่าเหม็นกลิ่นตระหล่บอยู่ริมทางดูเกลื่อนกลาด ต่อนั้นอมนุษย์ปีศาจในป่า ก็พากันหลั่งไหล เข้าพระนคร กินศพมนุษย์ ที่ม้วยมรณ์ เป็นจำนวนมาก ที่ต้องตายลงเพราะ อดอยากหิวโรยแรง ลงดับจิตยังพวกที่ต้องสูญเสียชีวิต เพราอหิวาตโรค เพราะบ้านเรือนโสโครก ด้วยก่ลิ่นไอ เนื่องจากของกินของใช้ไม่สะอาด เป็นเชื้อโรคที่ร้ายกาจสให้พลันตาย อหิวาต์พากให้มนุษย์ วอดวายเหลือประมาณ ยังปีศาจ สันดานพาลที่แฝงอยู่พากันเข้าสิงสู่สำแดงฤทธิ์ ล้างผลาญชีวิตประชาชน ให้วอดวาย ทุกวันวาร รวมเป็นภัย ๓ ประการน่าสะพรึงกลัว เพราะร้ายแรง คือ :-
ภัยเกิดพร้อม ๓ ประการไม่เคยมี ชาวเมืองไพศาลี เคราะห์ร้ายมาก ที่มีกำลังก็พากันหนีจากไปสู่เมืองไกล ลำดับนั้น พระเจ้ากรุงไพศาลี โปรดให้มุขอำมาตย์ราชมนตรี ประชุมชาวประชาชี ที่ข้องใจสงสัยในราชกิจ ยังท้องพระโรงหลวง รัตนวิจิตร ในราชฐาน ให้สำรววจวตรวจดูงานของพระมหากษัตริย์ ว่าสิ่งใดทีเราปฏิบัติ ไม่ชอบด้วยราชประเพณี ทำให้เกิดภัยกาลีร้าย ๓ ประการ เมื่อมหาชนตรวจดูงานของพระมหากษัตริย์ ก็มิได้เห็นข้อปฏิบัติอันใดของพระองค์ ที่บกพร่อง อันเป็นช่องที่จะให้เกิดภัยพิบัติได้ จึงกราบทูลว่า โทษใดๆ ของพระองค์มิได้ทรงมี แล้วบรรดาชาวประชาชี จึงปฤกษากันว่า เราท่านทั้งหลาย จะพากันทำฉันใดภัย จึงจะสงบลงด้วยดี ดังนั้น เมื่อผู้ใดเสนอว่า พิธีกรรทมเหล่านี้มีพลีกรรม การบรวงสรวงเป็นต้น จักเป็นมงคลระงับภัยพิบัติได้ เมื่อคนทั้งหลายพากันทำหมดทุกวิธี ก็ไม่สามารถปัดเป่าภัยกาลีให้สงบได้ ครั้งนั้น มีหมู่ชนที่สนใจในพระพุทธศาสนา เสนอความเห็นขึ้นมาชวนให้น่าคิดว่าบัดนี้ สมเด็จพระธรรมสามิสสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก ทรงประทานธรรมวิโมกข์แก่ปวงสัตว์ ทรงพระปรีชาญาณสมบัติอันวิเศษ สมบูรณ์ด้วยพระฤทธ์ พระเดชและอานุภาพทุกประการ ถ้าได้ปราบทูลอาราธนา ให้เสด็จมาประทานธรรม ในพระนครนี้ เหล่าภัยพิบัติทั้งมวลมีก็คงจะสงบได้ คำเสนอ เรื่องนี้เป็นที่พึงใจแก่คนเป็นอันมาก จึงพากันถามว่า บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเสด็จประทับอยู่ที่ใด ครั้นทราบแล้ว ก็พากันเข้าไปยังพระราชสถาน กราบทูล ให้พระเจ้ากรุงไพศาลี ทรงประทานโอกาส จัดราชปุโรหิตอำมาตย์ นำเครื่องราชบรรณาการไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร ยังราชถฤห์มหานคร เพื่อขออารธนาพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้บทจรมาระงับดับความเดือดร้อนของชาว พระนครไพศาลี ด้วยอานุภาพ พระบารมี แต่ครั้งเดี๋ยวนี้เถิด อนึ่งเล่าในสมัยนั้น เจ้าลิจฉวี พระนามว่า มหาลี เป็นผู้มีความสนิทสนมกันอย่างดี กับพระเจ้าพิมพิสาร จึงได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นหัวหน้านำเครื่องราชบรรณาการ ไปพร้อมด้วยบุตรปุโรหิต เพื่อปฏิบัติราชกิจยังแคว้นมคธ แล้วเจ้ามหาลีก็รีบสัญจรบทจากไพศาลี ไปมคธรัฐ เข้าเฝ้าพระเจ้าพิมพิสารราชาธิปัตย์ยังราชถฤห์นคร กราบทูลวิงวอนขออัญเชิญพระบรมศาสดา ครั้นได้รับพระราชบัญชาเปิดโอกาส ให้เฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังพระเวฬุวัน เจ้ามหาก็ขมีขมัน่ชวนคณะราชทูต ไปเฝ้าพระสัมพุทธที่พระมหาวิหาร ทูลอัญเชิญพระบรมศาสดาจารย์ ผู้ทรงพระมหากุรณา เพื่อบำเพ็ญโลกัตถจริยา ระงับความเดือดร้อน ประทานความร่มเย็น แก่ชาวนครไพศาลี ด้วยอานุภาพ พระบารมีด้วยเถิด เมื่อพระบรมศาสดา ทรงสดับคำของเจ้าลิจฉวี พร้อมชาวไพศาลีทูลอาราธนา จึงทรงใคร่ครวญ ดูแล้ว ก็ทรงรู้ชัดว่า ถ้าตถาคต ไปยังไพศาลีนคร ก็สามารถ ระงับดับความเดือดร้อนของประชาราษฎร์ ภัย ๓ ประการก็จะพินาศไม่ตั้งอยู่ได้ ด้วยอานุภาพคุณพระรัตนตรัย ในรัตนสูตรพุทธอาณาจึงรับคำอาราธนาของคณะเจ้าลิจฉวี ครั้นพระเจ้าพิมพิสารทรงสดับข่าว นัยว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับอาราธนาของเจ้า ลิจฉวี จึงเสด็จไปเฝ้าพระมหามุนีแล้วทูลถาม ครั้นทรงทราบความว่าจักเสด็จเป็นแม่นมั่น จึงกราบทูลว่า ถ้าเช่นนั้น ขอให้พระองค์ทรงรอก่อน ด้วยวิถีทางที่จะเสด็จบทจรยังไม่สู้ดี จึงโปรดสั่งให้ปราบพื้นวิธีทางสถลมารค ถวายพระผู้มีพระภาคประมาณ ๕ โยชน์ จากกรุงราชคฤห์ถึงแม่น้ำคงคา ห้าสม่ำเสมอแก่การขาตรา โดยสวัสดี ทุกระยะวิถีทางหนึ่งโยชน์ ก็โปรดให้สร้างวิหาร สำหรับพระศาสดา ประทับพัก พร้อมด้วยที่พำนักของพระสงฆ์ทั้งหลาย ที่ติดตามเสด็จ ในขณะที่เรือพระที่นั่งทรงขององค์พระผู้มีพระภาคเสด็จจากท่า มหาชนพากันทำสักการบูชายิ่งใหญ่ ไม่มีการเสด็จเรือครั้งใดเสมอเหมือน จึงเป็นการเสด็จด้วยพระเกียรติอย่างมโหฬาร ซึ่งพระเจ้าพิมพิสารจัดถวาย ทั้งเป็นการเสด็จไปจากพระนครหนึ่งสู่นครหนึ่ง โดยพระมหากษัตริย์ทรงจัดรับจัดส่งทั้งสองพระนคร จึงเป็นการเสด็จที่มีกิตติศัพท์ขจรไปไกลในพระประวัติของพระศาสดา จบตำนานพระพุทธรูปปางประทับเรือแต่เพียงนี้
( จากตำนานพระพุทธรูปปางต่าง นิพนธ์ โดบ พระพิมลธรรม ราชบัณฑิต (ชอบ อนุจารี มหาเถระ)
|
ไปหน้าสารบาญพระพุทธรูปปางต่างๆ