๕๓. ปางโปรดอาฬวกยักษ์ พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้าย หงายวางที่พระชานุ พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ จีบนิ้วพระหัตถ์เป็นการแสดงธรรม
พระพุทธรูปปางนี้ มีตำนานดังนี้ บังเอิญในราตรีก่อนวันที่เจ้าพนักงานจะจัดส่งพระโอรสของพระเจ้าอาฬวีนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบด้วยพระญาณ จึงทรงพระกรุณา เสด็จไปยังที่อยู่ของอาฬวกยักษ์ โดยมุ่งพระทัย จะทรงทรมาน อาฬวกยักษ์ ให้สิ้นความดุร้าย ครั้น อาฬวกยักษ์ กลับมาถึงวิมานในราตรีนั้น เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็โกรธด้วยมานะทิฏฐิแรงกล้า เห็นไปว่า พระสมณโคดมมาลบหลู่ดูหมิ่นเกียรติของตน แทนที่จะค่อยพูดค่อยจา ถามไถ่ถึงเหตุที่มาถึงที่อยู่ ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของ กลับโอหัง ตึงตัง เข้าใส่พระบรมศาสดา ถึงกับใช้อาวุธร้ายแรง ตามสันดานของพวกอสูรทีไร้คุณธรรม หากแต่ด้วยพุทธานุภาพ อาวุธทุกชนิดที่อาฬวกยักษ์ใช้ไปไม่เป็นผล กลายเป็นเครื่องสักการบูชา พระผู้มีพระภาคเจ้าเสียสิ้น ในที่สุดยักษ์ก็หมดฤทธิ์ หมดเดชหยุดราวี เพียงแต่ใช้วาจาเรียก พระบรมศาสดาให้ลุกออกมาจากวิมานของตนเสีย ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงพระกรุณาทำตามประสงค์ของอาฬวกยักษ์ คือจะให้ลุกก็ทรงลุก จะให้ออกก็เสด็จออก จะให้เข้าก็เสด็จเข้า จะให้นั่งที่ใด ก็ประทับนั่งให้ตามประสงค์ ทำให้หัวใจอาฬวกยักษ์ผ่อนโหดร้ายลง ในที่สุดอาฬวกยักษ์ได้ทูลถามปัญหา พระบรมศาสดา ได้ทรงพยากรณ์แก้ปัญหา ให้อาฬวกยักษ์เกิดปัญญาเห็นแจ้งในธรรมสิ้นความโหดร้าย ตั้งอยู่ในภูมิโสดาปัตติผล มอบตนลงเป็นทาสพระรัตนตรัย ตั้งมั่นอยู่ในอริยธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทรมาน อาฬวกยักษ์ตั้งแต่ย่ำค่ำจนรุ่งราตรี จึงสามารถยังน้ำใจอาฬวกยักษ์ ให้ยินดี ในอริยธรรม ตามพระประสงค์ได้ ในเช้าวันนั้น ก็พอดี ราชบุรุษพระนครอาฬาวี อุ้มเอาพระราชกุมารโอรสของพระเจ้าอาฬวี มาให้อาฬวกยักษ์กินเป็นอาหาร อาฬวกยักษ์รับเอาพระราชกุมารแล้ว ก็น้อมเข้าถวาย พระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมกับกราบทูลว่า ข้าพระองค์ขอถวายพระราชกุมารน้อย ซึ่งพระเจ้าอาฬวีส่งมาเป็นอาหารของข้าพระองค์ ด้วย ข้าพระองค์เว้นขาดจากเบญจเวรสิ้นเชิงแล้ว พระบรมศาสดา ทรงรับพระกุมาร แล้วตรัสอนุโมทนาแก่อาฬวกยักษ์ และทรงอวยพรแก่พระราชกุมาร พร้อมกับประทานคืนให้อำมาตย์ นำพระราชกุมารกลับพระนคร เพื่อถวายพระเจ้าอาฬวี ครั้นอำมาตย์นำพระราชกุมารกลับนครแล้ว เกียรติศัพท์เกียรติคุณพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ฟุ้งขจร ไปทั่วว่า พระผู้มีพระภาคทรงพระกรุณาเสด็จมาระงับภัยพิบัติ แก่พระนครอาฬวี ชาวเมืองทั้งสิ้นต่างก็มีควมปิติยินดี พากันจัดเครื่องสักการะต่างๆ นำไปบูชา ขณะนั้นพระบรมศาสดา ทรงพระกรุณาพาอาฬวกยักษ์มาพระนครอาฬวี พอถึงสถานที่ครึ่งทางสัญจร ก็พบชาวพระนครมีพระเจ้าอาฬวี เป็นประมุข น้อมนำสักการะมาเฝ้าถวายอภิวาท สมเด็จพระบรมโลกนาถ ก็ทรงหยุดประทับ รับสักการบูชา พร้อมกับทรงพระกรุณา ประทานพระธรรมเทศนาโปรด ให้ชาวเมือง เห็นทุกข์ เห็นโทษในเบญจกรรม และทรงให้ชาวพระนคร ตั้งอยู่ในกัลยาณธรรมตามสมควรแก่วิสัย ประทานธรรม ให้เป็นสมบัติทั่วไป แก่ชาวนครอาฬวี ปลุกให้เกิดความเมตตาปราณี กันทั่วห้า ทั้งหชาวเมืองนับถือบูชาอาฬวกยักษ์ประหนึ่งว่า เป็นเทพารักษ์ หลักพระนคร ครั้นประทานธรรมคุณากรสิ้นเสร็จ พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จนิวัตนาการ กลับคืนพระเชตะวันมหาวิหาร จบตำนานพระพุทธรุปปางโปรดอาฬวกยักษ์แต่เพียงนี้
( จากหนังสือตำนานพระพุทธรูปปางต่าง นิพนธ์ของ พระพิมลธรรม ราชบัณฑิต ( ชอบ อนุจารี มหาเถระ)
|